วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

จมูกเล็กได้ ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ


เพื่อนๆหลายคนคงจะไม่ค่อยมั่นใจในรูปจมูกของตัวเอง โดยเฉพาะสาวไทยที่มักมีปัญหาจมูกดูใหญ่ เพราะดั้งไม่ค่อยโด่งบ้าง ปลายจมูกทู่มนบ้าง บ้างก็ปีกจมูกกว้างทำให้จมูกดูบาน จึงต้องหาเคล็ดลับในการแต่งหน้ามาคอยปกปิดหรือว่
ากลบ เกลื่อนจุดบกพร่องเหล่านี้อยู่เสมอ เพื่อนๆคนไหนที่ประสบปัญหาแบบเดียวกัน ลองมาดูทริคการแต่งหน้าเพื่อพรางจมูกให้ดูเล็กลง ที่ชมพูซาลอนนำมาฝากกันดูนะคะ

1. แต่งหน้าโดยเน้นองค์ประกอบอื่น ๆ ของใบหน้า หากคุณรู้สึกว่ามีปัญหากับรูปร่างจมูกของตัวเอง เมื่อถึงเวลาแต่งหน้าจึงจำเป็นที่คุณจะต้องแต่งโดยไม่เน้นให้จมูกดูเด่นออก มา ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการลดความสำคัญของการแต่งหน้าในส่วนของจมูก แล้วเน้นจุดเด่นที่องค์ประกอบอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นดวงตา พวงแก้ม หรือว่าริมฝีปาก เพื่อให้ส่วนนั้น ๆ โดดเด่นออกมา กลายเป็นจุดดึงดูดสายตาแทนจมูกของคุณไปได้

2. ใช้แป้งรองพื้นสีเข้มที่บริเวณข้างจมูก สร้างมิติหลอก ๆ รอบจมูกของคุณ ด้วยแป้งรองพื้นอัดแข็งที่มีสีเข้มกว่าสีผิวจริง ไล้ที่บริเวณข้างจมูก แล้วเบนลด์ให้ดูกลืนกับผิวดี เงาเข้ม ๆ ที่ข้างจมูกตรงนี้ จะทำให้จมูกของคุณดูเรียวขึ้นและเล็กลงได้

3. ใช้แป้งรองพื้นสีอ่อนไล้ที่ด้านหน้าจมูก ใช้แป้งรองพื้นชนิดอัดแข็งสีที่อ่อนกว่าผิวจริง ไล้ที่ด้านหน้าจมูก ตั้งแต่บริเวณใต้หว่างคิ้วลงมาจนถึงปลายจมูก มิติหลอก ๆ นี้จะช่วยให้แนวจมูกของคุณดูสูงขึ้น ส่งผลให้จมูกดูเรียวและเล็กลงได้ด้วยค่ะ

เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องพึ่งมีดหมอให้เราต้องเจ็บตัวแล้วคะ อย่าลืมนำไปใช้กันดูนะจ๊ะ

"ผู้หญิงอย่าหยุดสวย เดี๋ยวผู้ชายจะสวยกว่า"จ้า
ชมพูซาลอน 087-5600424 ^^

เครื่องสำอางอันตราย 34 รายการ เสี่ยง! หน้าพัง

 อย.เตือนผู้บริโภค อย่าซื้อ อย่าใช้ เครื่องสำอางอันตราย 34 รายการอย่างเด็ดขาด เสี่ยง! หน้าพัง ย้ำ หากพบผู้ฝ่าฝืนผลิต นำเข้า หรือขาย เจอโทษทั้งจำทั้งปรับ พร้อมแนะ ก่อนซื้อควรอ่านฉลากให้ถ้วนถี่ ต้องมีเลขที่ใบรับแจ้ง 10 หลัก และซื้อจากสถานที่จำหน่ายที่มีหลักแหล่งน่าเชื่อถือ
       
       นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รอง เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีข่าวสาวขอนแก่น หวิดเสียโฉม เพราะใช้เครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง เกิดอาการแสบคัน และมีผื่นขึ้นเต็มหน้า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ประสานกับกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น พบว่าเป็นเครื่องสำอางยี่ห้อ “3 ทรีเดย์ ไบรเทน แอนด์ รีไวเทน โลชั่นป้องกันแสงแดด” ซึ่งมีส่วนผสมของสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ได้แก่ สารไฮโดรควิโนน ซึ่งก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง เกิดจุดด่างขาวที่หน้า ทำให้ผิวหน้าดำ เป็นฝ้าถาวรรักษาไม่หาย ทั้งนี้ เครื่องสำอางดังกล่าวเป็น 1 ในเครื่องสำอาง 34 รายการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ประกาศเป็นเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้าหรือขาย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดชื่อเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย
      
       สำหรับเครื่องสำอาง 34 รายการ มีดังนี้ (1) BEANNE บีแอน ครีมไข่มุกตราแตร
       (2) แอนตี้-ฟาร์ ครีม (3) แอนตี้-ฟาร์ โลชั่นกันฝ้า ปรับผิว (4) ROSE ครีมขจัดฝ้า (5) FAR-ACT ครีมรักษาฝ้า (6) CN คลินิก 99 (7) ครีมฝ้าเมลาแคร์ (8) โลชั่นกันแดด กันฝ้า เมลาแคร์ (9) ครีมวินเซิร์ฟ (10) โลชั่นวินเซิร์ฟ ลดฝ้ากันแดด (11) MUI LEE HIANG PEARL CREAM (12) เอสจี โลชั่นปรับสภาพผิว (13) เลนาว ครีมบำรุงผิวหน้ากลางคืน (14) NEW CARE นิวแคร์ ครีมประทินผิว (15) NEW CARE นิวแคร์ โลชั่นปรับสภาพผิว (16) 3 ทรีเดย์ ไบรเทน แอนด์ รีไวเทน ครีมลดริ้วรอยหมองคล้ำ (17) 3 ทรีเดย์ ไบรเทน แอนด์ รีไวเทน โลชั่นป้องกันแสงแดด (18) 3 ทรีเดย์ เนเชอรัล ครีมทาสิว (19) 3 ทรีเดย์ เนเชอรัล โลชั่นป้องกันแสงแดด
      
       (20) พรีม ไบรเทน แอนด์ รีไวเทน ครีมลดริ้วรอย (21) พรีม ไบรเทน แอนด์ รีไวเทน โลชั่นป้องกันแสงแดด (22) มิสเดย์ ครีมแก้สิว (23) มิสเดย์ ครีมแก้ฝ้า (24) พอลล่า ครีมทาสิว (25) พอลล่า ครีมทาฝ้า (26) พอลล่า โลชั่นกันแดดรักษาฝ้า (27) ครีมชาเขียว DR. JAPAN (28) ครีมชาเขียว MISS JAPAN (29) ชิชาเดะ ครีมหน้าขาว โสมผสมไข่มุกญี่ปุ่น (30) ครีมบัวหิมะ หลิง หลิง (31) ครีม QIAN MEI (32) ครีม QIAN LI (33) ครีม CAI NI YA (34) ครีม JIAO LING
      
       ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยผู้บริโภคสามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องสำอางที่มีสารห้ามใช้ได้ทาง www.fda.moph.go.th  เลือก เกี่ยวกับเรา เลือกหน่วยงานภายใน เลือกกลุ่มควบคุมเครื่องสำอาง แล้วพิมพ์ชื่อเครื่องสำอางที่สงสัยในช่องที่ระบุว่าค้นหา ซึ่งหากเป็นเครื่องสำอางที่เคยประกาศผลวิเคราะห์ว่าพบสารห้ามใช้จะปรากฏราย ละเอียดให้เห็น
      
       รองเลขาธิการ อย.กล่าวในตอนท้ายว่า ขอให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากสถานที่จำหน่ายที่มีหลัก แหล่งน่าเชื่อถือ และก่อนตัดสินใจซื้อควรสังเกตฉลากผลิตภัณฑ์ โดยฉลากต้องมีข้อความภาษาไทย ระบุข้อความอันจำเป็นครบถ้วน ได้แก่ ชื่อและชนิดของเครื่องสำอาง เลขที่ใบรับแจ้ง (เป็นเลข 10 หลัก) สารที่ใช้เป็นส่วนผสม วิธีการใช้ ชื่อที่ตั้งผู้ผลิต/ผู้นำเข้า ปริมาณสุทธิ เลขที่แสดงครั้งที่ผลิต เดือนปีที่ผลิต และคำเตือน (ถ้ามี) อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคพบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือได้รับอันตรายจากการใช้เครื่องสำอาง ขอให้ร้องเรียนที่ สายด่วน อย.โทร.1556 หรืออีเมล : 1556@fda.moph.go.th หรือส่งจดหมายไปที่ ตู้ ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 เพื่อ อย.จะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 

ที่บ้านเพื่อนๆมีของเหล่านี้หรือเปล่าคะ การซื้อเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน มีอย.รับรองจริงๆ(ไม่ใช่ อย.โฟโต็ช็อป) เหมือนกันการซื้อประกันผิวหน้าของเราไปในตัว หากเราแพ้หรือว่าผลิตภัณฑ์มีปัญหา เราสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้นะคะ จ่ายน้อยก็เหมื
อนไม่มีประกัน หน้าพังจะเรียกร้องกับใคร แล้วหน้าที่พังก็ต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิต หรือไม่ก็ต้องไปพึ่งมีดหมอ แพงกว่าเดิมอีก

...เห็นบางคนที่ใช้ ก็บอกว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลย คิดมากไปป่าว...คิดสิคะหน้าเรานี่นา...^^

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

แก้ปัญหาผมแห้งเสียและแตกปลาย


แก้ปัญหาผมแห้งเสียและแตกปลาย
อันที่จริงแล้ว ไม่มียา หรือพืชผักชนิดใดในโลกที่จะสามารถ ทำให้ผมที่แตกปลาย กลับมาสมานกัน
ได้ด้วยเวลาอันรวดเร็ว นะค่ะ ก่อนอื่นควรเข้าร้านเสริยสวยใกล้ๆบ้านแล้วบอกให้ช่างผมเล็มผมที่แตกปลายออก ไปสัก 2-3 เซนติเมตรดูสิคะ เมื่อเล็มผมที่แตกปลายอกไปหมดแล้ว จึงค่อยมา
เริ่มต้นดูแล เส้นผมต่อไปคะ
 

วิธีที่แนะนำนะคะสามารถทำด้วยตัวเองง่ายๆเลยค่ะ นำเอาครีมหมักผมมาชโลมผมที่แห้ง
พอหมาดๆ แล้วคลุมทับด้วยหมวกอาบน้ำ หรือไม่ก็ผ้าขนหนูเปียกหมาดๆ ว่ากันว่าความร้อนจะช่วย
ในการเปิดเกล็ดผมทำให้น้ำมันสามารถซึมลึก สู่ภายในเส้นผมได้มากขึ้น แต่ทางที่ดีควรจะทิ้งไว้ป
ระมาณ 30 นาทีขึ้นไปนะคะ จากนั้นจึงค่อยสระผมตามปกติ ทำเช่นนี้เพียงอาทิตย์ละ 1 วันติดต่อกันไปเรื่อยๆ คุณสาวๆ จะพบว่าผมที่ค่อยๆ ยาวขึ้นมาใหม่ ไม่แตกปลายอีกแล้วล่ะค่ะ.. เมื่อผมคุณแข็งแรงดีแล้ว คุณก็สามารถเข้าร้านเสริมสวยได้ตามปรกติคะ ลองทำดูนะค่ะไม่ยากค่ะ


"ผู้หญิงอย่าหยุดสวย เดี๋ยวผู้ชายจะสวยกว่านะคะ"
ชมพูซาลอน ร้านเสริมสวยที่ซื่อตรงที่สุดในโคราช

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ไดร์วอลลุ่มผม "เพื่อเส้นผมหนานุ่ม น่าสัมผัส"



ไดร์วอลลุ่มผม "เพื่อเส้นผมหนานุ่ม น่าสัมผัส"
      
           เพิ่มวอลลุ่มผม สาวๆ ที่มีผมบางเส้นเล็กต้องฟังท
างนี้เลยค่ะหรือปัญหาผมลีบแบนถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สาวๆ ที่กำลังเจอกับปัญหานี้ถึงกับเครียดไปตามๆ กันเลยแหละ แต่วันนี้ปัญหาที่น่ากังวลของคุณผู้หญิงจะหมดไปเพราะว่า ชมพูซาลอน จะแนะนำการไดร์เพิ่มวอลลุ่มผมกันค่ะ สำหรับ วิธีเพิ่มวอลลุ่มผม นี้จำเป็นที่จะต้องตัดแต่งทรงผมไล่ระดับผมวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่ง วิธีที่เพิ่มวอลลุ่มผม ได้เหมือนกันนค่ะ งั้นเอาเป็นว่าเราลองเปลี่ยนจากไดร์ตรงๆมาเป็นการไดร์วอลลุ่มผมในแบบง่ายๆ กันเลยดีกว่านะค่ะ รับรองได้เลยว่าสาวๆ ที่กำลังกลุ้มใจในปัญหาที่น่าเบื่อแบบนี้จะต้องฉีกยิ้มได้อย่างกว้างแน่นอนค่ะ

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หนาวจะมาแล้ว บำรุงผมของเรายังไงดีนะ?


หน้าหนาวจะมาแล้วสินะคะ ถึงแม้หน้าหนาวในบ้านเราจะไม่ได้มีอากาศเย็นจัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมินั้นส่งผลต่อสภาพเส้นผมของคุณอย่างแน่นอน นอกจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่ลดต่ำลงแล้ว อากาศในฤดูหนาวยังแห้งกว่าฤดูอื่น ๆ ทำให้เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายขึ้น นำมาสู่ปัญหาเส้นผมอย่าง ผมแห้ง หยาบกระด้าง จัดทรงยาก ชี้ฟู หวีเท่าไหร่ก็ไม่เรียบเสียที วันนี้เราจึงนำวิธีดูแลเส้นผม เพื่อรับมือกับปัญหาเหล่านี้ชมพูซาลอนขอนำวิธีการบำรุงเส้นผมในหน้าหนาวมาฝากกันค่ะ

1.ใช้ครีมนวดทุกครั้งที่สระผม การใช้ครีมนวดผมทุกครั้งหลังการสระ เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดูแลเส้นผมในหน้าหนาว เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมอย่างพอเพียงที่จะต่อสู้กับสภาพอากาศ นอกจากนี้ลองมาส์กผมด้วยทรีตเมนต์ชนิดเข้มข้นทุก ๆ ครึ่งเดือน แล้วผมของคุณจะนุ่มสลวยไม่หวั่นอากาศหนาวแน่นอน

2.สวมหมวกไหมพรม แม้อากาศในฤดูหนาวของเราจะไม่หนาวจัด จนถึงขนาดต้องสวมหมวกเพื่อให้ศีรษะอบอุ่น แต่หากอยู่ในท้องที่ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ อย่างเมื่อไปเที่ยวทางภาคเหนือ ซึ่งบางครั้งอุณหภูมิลดลงจนนับว่ามีอากาศเย็นจัด การสวมหมวกไหมพรมนับเป็นเรื่องที่สมควรทำ นอกจากจะรักษาความอบอุ่นให้กับศีรษะแล้ว ยังเป็นการป้องกันเส้นผมจากการสูญเสียความชุ่มชื้นให้กับอากาศได้ด้วย

3.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม ความจริงแล้วการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม เป็นเรื่องที่ควรเอาใจใส่ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ๆ และสำหรับฤดูหนาวนั้น ให้เน้นรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ซึ่งจะช่วยเสริมความชุ่มชื้น และต่อต้านอาการแตกปลาย รวมทั้งไม่ลืมเติมกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม ด้วยการรับประทานอาหารอย่างปลา และ ถั่วต่าง ๆ ด้วย

4. เล็มปลายผม เมื่อย่างเข้าสู่ต้นฤดูหนาว ขอให้สาว ๆ เข้าร้านตัดผม เพื่อเล็มเอาปลายผมที่มีปัญหาออก เพราะผมที่มีปัญหาแห้งแตกปลาย จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อได้เจอกับอากาศที่แห้งและเย็น การเล็มปลายผมแห้งแตกออกจะทำให้คุณได้เริ่มต้นฤดูหนาวกับผมสวย ๆ และทำให้การดูแลผมในฤดูหนาวง่ายขึ้นด้วยค่ะ

5. เตรียมตัวป้องกันปัญหาหนังศีรษะแห้งและรังแค อากาศที่แห้งและเย็น ทำให้หนังศีรษะแห้ง และอาจหลุดลอกออกมาเป็นรังแค ร่วงหล่นลงบนเสื้อตัวสวยของคุณ ทำให้เสียบุคลิกภาพไม่น้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้น พยายามรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมันชนิดเข้มข้นน้อย อย่างน้ำมันจากเมล็ดองุ่น และใช้ยาสระผมที่มีส่วนผสมของตัวยารักษาการเกิดรังแคบนหนังศีรษะ

6. สำคัญมากนะคะอันนี้ หลีกเลี่ยงการหนีบผมหรือม้วนผมด้วยแกนม้วนผมไฟฟ้า ในฤดูที่ผมเสี่ยงจะแห้งเสียง่ายเช่นนี้ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้ผมเสียความชุ่มชื้นและแห้งกรอบ อย่างการจัดแต่งผมด้วยการใช้ที่รีดผม หรือม้วนด้วยแกนม้วนผมไฟฟ้า ซึ่งทั้งทำร้ายผมด้วยความร้อนจัด และทำให้ผมแห้ง หากต้องการทำผมด้วยอุปกรณ์เช่นนี้จริง ๆ อย่าลืมปกป้องเส้นผมด้วยเซรั่มหรือลีฟออนที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมก่อนทุกครั้ง(ทางที่ดีอย่าหนีบดีที่สุดคะ)

ด้วยวิธีการดูแลผมเหล่านี้ ต่อให้หน้าหนาวที่กำลังมาถึงจะหนาวเย็นเพียงใด ก็ไม่ต้องกลัวว่าผมจะแห้งหยาบ ชี้ฟู อีกต่อไปแล้วค่ะ

ผู้หญิงอย่าหยุดสวย เดี๋ยวผู้ชายจะสวยกว่านะคะ^^
โทรติดต่อสอบถามได้ที่ 087-5600424 ช่างมาศ ค่ะ
ที่มา http://women.kapook.com/view32886.html จ้า

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ดัดผมต้องดูแล อย่าดัดซ้ำทำผมพัง

มาแล้วค่าเพื่อนๆ วันนี่ชมพูซาลอนขอนำเสนอหัวข้อเรื่อง
"การดูแลผมดัดยังไงไม่ให้เสียทรง"

เรามาทำความเข้าใจกับคำว่าการดัดผมก่อนนะคะ

การดัดผม หมายถึง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเส้นผม เปลี่ยนทั้งรูปร่างหน้าตาปลี่ยนโครงสร้างเส้นผมอย่างถาวร ทำให้เกิดการโค้งงอเพื่อความสวยงามชนิดถาวร สาเหตุก็เป็นเพราะสารเคมีที่อยู่ในน้ำยาดัดผมบนแกนม้วนผมจะซึมซาบเข้าไปทำปฏิกริยากับโครงสร้างเส้นผมให้ดูนุ่มนวลขึ้น ซึ่งก็ขึ้

นอยู่กับขนาดของแกนแต่ละชนิดด้วย ยิ่งแกนใหญ่เท่าไหร่ก็จะช่วยให้ลอนผมดูนุ่มนวลมากขึ้นเท่านั้น จากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของน้ำยารักษาสภาพลอนผมให้อยู่ตัว ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกลาง เช่นเดียวกับการยืดผมก็จะใช้ขั้นตอนเดียวกัน เพียงแต่อาจใช้หวีช่วย โดยการหวีจากรากจรดปลายเส้นบ่อยๆ ก็จะช่วยให้เส้นผมเหยียดตรงได้

ข้อควรรู้ก่อนการดัดผมค่ะ
1. ถ้ามั่นใจว่าเส้นผมแข็งแรงพอที่จะดัดแล้วล่ะก็ก่อนการดัดประมาณ 2-3 สัปดาห์ เส้นผมควรได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ โดยการใช้ทรีตเม้นท์เข้มข้นเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมอย่างเต็มที่ และภายหลังจากการดัดผมแล้ว เส้นผมจำเป็นจะต้องได้รับการบำรุงมากยิ่งขึ้น
2. เมื่อผมใหม่งอกยาวขึ้น บริเวณรากผมที่ดัดไว้จะตกลงมา ควรพิจารณาดูว่า จะมีการดัดเพิ่มเฉพาะช่วงรากหรือค่อยๆเล็มผมแล้วดัดเพิ่มใหม่ทั้งหมด แต่อย่าดัดซ้ำสองในช่วงเวลาใกล้เคียงกันอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เส้นผมอ่อนแอและเสียไปในที่สุด
3. ควรเว้นระยะประมาณ 2 สัปดาห์ ระหว่างการทำสีผมและการดัดผม มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับปัญหาเส้นผมแห้งเสียเหมือนฟางข้าว แทนที่ลอนผมสลวยสีสันสดใสได้

วิธีดัดผมเป็นลอนสวยวิ้งวิ้ง
1. การดัดผมที่ทำให้เกิดการโค้งที่ใหญ่และกว้าง แทนที่จะทำเป็นเส้นหยิกหยอยเล็กๆ การดัดแบบนี้สามารถเพิ่มการสปริงตัวของเส้นผมและเพิ่มน้ำหนักให้กับเส้นผมและทรงผมด้วย
2. การดัดผมที่โคนของเส้นผม จะสร้างความรู้สึกว่าเส้นผมยกตัวตั้งสูงขึ้น ทำให้ดูเหมือนว่ามีเนื้อผมมาก ทรงผมที่ตัดสั้นจะได้ประโยชน์มากจากการดัดผมแบบนี้
3. การดัดผมที่ทำให้เกิดการหยิกและเป็นคลื่นมากๆจะทำให้ดูว่าเส้นผมมีชีวิตชีวานุ่มและเป็นธรรมชาต
4. การดัดผมให้เกิดการหยิกมากจนเป็นเกลียว การทำเช่นนี้จะทำให้ผมดูหนาขึ้นมาก เหมาะสำหรับผมยาวที่มีเนื้อผมให้ทำการดัดม้วนจนเป็นเกลียว
5. การดัดผมเฉพาะที่ เช่น ดัดบริเวณหน้าผากหรือด้านข้าง เพื่อทำให้เกิดการยกตัวในบริเวณนั้นๆ
6. การดัดผมโดยใช้ขนาดของโรลต่างๆกันในเส้นผมที่ยาวเท่ากัน จะทำให้เส้นผมที่ถูกดัดมีขนาดต่างๆกันและสุมทับกันดูทันสมัยและแปลกตาดี
7. การดัดผมในบางส่วนและทิ้งไว้ตามปกติบางส่วน ทำให้เกิดการสลับสับเปลี่ยนสร้างความเท่ได้อีกรูปแบบหนึ่ง
ดัดแล้วต้องเจอ

ผมที่ดัดหากปล่อยไว้ไม่เกิน 2 เดือน เส้นผมในส่วนโคนที่งอกขึ้นมาใหม่ก็จะมีลักษณะตามธรรมชาติของเส้นผมเดิมปรากฎออกมา เช่น ในคนเอเชียอย่างพวกเราเส้นผมก็คงเหยียดยาวไม่มีอาการโค้งงอหรือหยักศกใดๆ ฉะนั้นเพื่อให้ทรงผมดูงดงามเหมือนเดิม การดัดผมเพิ่มเติมในส่วนนี้ให้เข้ากับรูปทรงเดิมก็ควรต้องทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำครั้งใหม่นี้ต้องพยายามหาวิธีป้องกันไม่ให้น้ำยาที่ใช้ทั้งขั้นตอนแรกและขั้นตอนสุดท้ายไปออกฤทธิ์ในที่ที่ไม่ต้องการให้ทำ ช่างทำผมที่มีประสบการณ์สูงจะจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ยาก

วิธีดูแลผมดัด
1. ไม่สระผมภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังการดัดหมาดๆ
2. เมื่อเลยกำหนดเวลา ใช้แชมพูและครีมนวดสูตรเฉพาะผมดัดเท่านั้น
3. หวีผมด้วยหวีซี่ห่าง ไม่ควรใช้แปรงๆผมเด็ดขาด ทางที่ดีใช้นิ้วมือช่วยจัดแต่งทรงให้เข้าที่เข้าทางก็เพียงพอ
4. ผมเปียกควรซับให้แห้ง เพราะความเปียกสามารถทำให้เส้นผมยืดตัวได้
5. หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับการดัดผม ปล่อยให้เส้นผมแห้งเอง
6. ใช้เซรั่มลดความพองฟู หรือใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งเส้นผมแบบ Super Hold ประเภทแว๊กซ์ หรือโลชั่นลูบผมช่วยให้อยู่ทรงและจัดลอนได้สวยงาม
7. ใช้ไดร์เป่าผมให้เสยไปข้างหลัง แล้วใช้นิ้วมือเสยผมจนผมหยิกเริ่มคลายลอนใช้น้ำมันใส่ผมหรือแฮร์โค้ทชโลมเบาๆจะได้ผมทรงใหม่เป็นลอนสวยไม่หยิก
8. ควรนวดหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและการผลิตไขมั
9. ใช้สเปรย์เพิ่มวอลลูมเส้นผม
10. ผมลอนใหญ่จัดทรงยาก ใช้มูสชโลมผมที่เปียกหมาดๆ แสกผมแล้วแบ่งผมเป็นช่อ ม้วนโรลขนาดใหญ่ทิ้งไว้ให้แห้งใช้นิ้วจัดแต่งทรง

เคล็ดลับ สำหรับสาวผมดัด (อันนี้จากทางร้านแล้วก็จากหนังสือค่ะ ไม่ได้เขียนเองทั้งหมดน้า^^)
1. ใช้แชมพูสำหรับผมแห้งซึ่งมีน้ำมันซิลิโคนที่มากสักหน่อยเป็นประจำ จะช่วยให้ผมลื่นและดูเงางาม
2. ใช้น้ำมะนาวผสมน้ำให้เจือจาง นำมาชโลมเส้นผมหลังจากล้างน้ำครั้งสุดท้ายทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น กรดในน้ำมะนาวจะช่วยให้ไฟเบอร์ในผมยึดเกาะกันได้แน่น ผมจะเรียบขึ้น หวีง่ายขึ้น และสะท้อนแสงไฟได้ดีขึ้น ทำให้ผมดัดแลดูเป็นเงางาม
3. การนวดหนังศีรษะเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและการผลิตไขมัน
4. เพื่อการจัดทรงง่าย ใช้น้ำมันอัลมอนด์ใส่ขวดสเปรย์แล้วฉีดใส่แปรงก่อนหวี จะทำให้หวีผมง่ายขึ้นแลดูเป็นเงางาม
5. ก่อนนอนใช้หนังยางรวบผมไว้หลวมๆผมจะได้ไม่พันกันตอนกลางคืน
6. นำเนื้ออะโวคาโดผสมกับน้ำมันทานตะวัน 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาวอีกเล็กน้อยชโลมบนผมเปียก ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกให้หมด ช่วยบำรุงผม
7. หรือวิธีง่ายๆด้วยครีมเอนกประสงค์อย่างนีเวียนำมานวดผมและทิ้งไว้ค้างคืน จะช่วยบำรุงผมดัดได้

หวังว่าเพื่อนๆจะสามารถนำความรู้จากทางร้านชมพูซาลอนไปทดลองกันได้นะคะ

ไม่มีทิ้งท้ายไม่ใช่ร้านชมพูซาลอนคะ
"ผู้หญิงอย่าหยุดสวย เดี๋ยวผู้ชายจะสวยกว่าเราค่า"

ทีมา นิตยสาร HAIR นิตยสารผม & ความงาม

กลูตาไธโอน คิดดีๆว่าจะใช้หรือไม่ใช้

สวัสดีคะเพื่อนๆ วันนี้ได้ดูข่าวเกี่ยวกับสารทำให้ผิวขาว กลูตาไธโอน มาเลยอยากนำความรู้เรื่องสารกลูตาไธโอนมาฝากเพื่อนๆคะ

กลูตาไธโอน (อังกฤษ: glutathione) เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสา ท ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ปกติแพทย์จะใช้ในปริมาณเพียง 200 มิลลิกรัมต่อครั้ง มีกลุ่มคลินิกเสริมความงาม เป็นสารอ้างว่าใช้ผสมกับวิตามินซี ฉีดทำดีท็อกซ์ผิวขาว

กลูตาไธโอน เป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cy

steine), กรดกลูตามิค (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และมีในอาหาร เช่น นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม

กลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ตับขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และยังนำมารักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ข้ออักเสบ โรคพาร์กินสัน โรคตับ โรคไต โรคเอดส์ ภาวะเป็นหมันในเพศชาย และภาวะหูตึงจากเสียงดัง ผลข้างเคียงทำให้ผิวขาว

กลูต้าไทโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาด วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่

สารนี้บางประเทศขึ้นทะเบียนเป็นยา และบางประเทศใช้เป็นอาหารเสริม แต่ในประเทศไทยสารนี้ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

แต่ ข้อมูลที่ใช้รักษาฝ้า และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งเหมือนมีแสงออร่า นั้นยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน พบว่าเป็นผลข้างเคียงจากการใช้สารนี้ที่ใช้รักษาโรคอื่นแล้วผิวขาวขึ้น จึงมีการนำมาใช้ทำให้ผิวขาวขึ้น

ปัญหาของกลูต้าไธโอน

1. ผล ข้างเคียงที่น่ากลัว คือการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำ มีโอกาสที่จะแพ้ได้ ทั้งการแพ้สารกลูต้าไธโอน เอง หรืออาจจะแพ้ สารฆ่าเชื้อ หรือ สารกันเสีย หรือ สารปนเปื้อน ขณะนี้มีรายงานในต่างประเทศว่าผู้ ที่ได้รับการฉีดกลูต้าไธโอนขนาดสูงที่ใช้กันอยู่มีอาการช็อค ความดันต่ำ หายใจไม่ออก และเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

2. สารกลูต้าไธโอน ที่ใช้อยู่เป็นการลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา (อย.) สารนี้ที่ใช้ในการแพทย์ มีชื่อว่า Tationil ซึ่งผลิตโดยบริษัท Roche ประเทศอิตาลี แต่บริษัท Roche ประเทศไทย ได้ยืนยันมาว่าบริษัทไม่ได้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย และยังพบว่ามียาปลอมมีที่ผลิตที่เวียดนามและจีน โดยที่พิมพ์ว่าผลิตในอิตาลี ทำให้เกิดผลข้างเคียงในการฉีดได

3. การที่ฉีดมักจะให้วิตามินซีในขนาดสูงร่วมด้วย ซึ่งการฉีดวิตามินซี ในขนาดที่สูงและเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดอาการมึนศีรษะ คล้ายจะเป็นลมได้

4. พบว่าการที่ได้รับสารกลูต้าไธโอนเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เม็ดสีที่จอตาลดลง ทำให้รับแสงได้น้อยลง เสี่ยงต่อการมองเห็นได้ในอนาคต ทางวารสารทางการแพทย์สหรัฐอเมริกาจัดว่าเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทางตา

5. การใช้สารกลูต้าไธโอนในผู้ป่วยมะเร็งทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดลดลง

6. การได้รับสารกลูต้าไธโอนปริมาณมาก มีผลต่อแร่ธาตุในขบวนการเมตาบอลิซึม และตัวมันเองสามารถกลายเป็นอนุมูลอิสระ มาทำร้ายร่างกายได้

7. ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในเรื่อง “กลูต้าไธโอน” นั้น เท่าที่ทราบมีการขายเกลื่อนตามเว็บไซต์ ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงเป็นหมื่นบาท และมีการแนะนำวิธีฉีด และอวดอ้างสรรพคุณ จนทำให้คนที่อยากขาวเกิดความสนใจ และซื้อหาไปทดลองทั้งฉีดกันเองซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ การติดเชื้อ และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย

ผู้บริโภคอย่างเราไม่ควรหลงเชื่อโฆษณาที่อ้างว่าสามารถช่วยให้ผิวขาวขึ้น เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างถาวร ผลิตภัณฑ์ หรือยาอาจจะช่วยได้ชั่วคราว แต่เมื่อหมดฤทธิ์ร่างกายก็จะผลิตเม็ดสีตามปกติ ทั้งนี้การที่ประชาชนในแถบเอเชียมีผิวคล้ำถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เพราะสามารถป้องกันแสงอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ได้ ทำให้โอกาสการเกิดมะเร็งผิวหนังน้อยกว่าคนผิวขาว จึงไม่ควรมีค่านิยมที่ผิดในการเปลี่ยนสีผิวให้ขาวผิดธรรมชาติ

เห็นไหมคะว่าบางอย่างที่ดีอยู่แล้วเราไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนมันตามกระแสหรือค่านิยม สิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้หญิงอย่างเราควรมีอยู่ที่จิตใจคะ

ท้ายนี้ฝากสโลแกนไว้เหมือนเดิมค
เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย เดี๋ยวผู้ชายจะสวยกว่าเราคะ
ติดต่อร้านชมพูซาลอน 087-5600424 (ไม่มีกลูตาขายนะคะ ขายแต่ผลิตภัณฑ์ฟาริสอย่างเดียวคะ)

ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/กลูตาไธโอน

ทำความเข้าใจกับเส้นผมเรากันดีกว่าคะ

เส้นผมเป็นเส้นใยวัสดุที่เติบโตมาจากชั้นผิวหนังแท้ โดยมีโครงสร้างพื้นฐานมาจากโปรตีนKeratin เส้นผมของแต่ละคนทำขึ้นจากไขกระดูก, เยื่อหุ้มสมองและหนังกำพร้า เยื่อหุ้มสมองเป็นแหล่งที่มาหลักของการเสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นผม การเจริญเติบโตของเส้นผมจะเริ่มภายในรูขุมขนเท่านั้น ส่วนอื่นๆที่อยู่บริเวณรากผมจะเป็นตัวผลิตสารเคลือบเส้นผมที่มีส่วนประกอบของไขมัน (ทีมา wikipedia.org)

จากข้อมูลตรงนี้จะเห็นได้ว่าก
ารที่เราจะดูแลและบำรุงรักษาเส้นผมของเราให้เงางามต้องเริ่มดูแลตั้งแต่รากผม โคนผม ซึ่งผมส่วนปลายส่วนใดที่เสียหรือแตกปลายควรจะต้องเล็มทิ้งเพื่อให้คงผมส่วนที่ดีเอาไว้ หมั่นดูแลบำรุงใส่ทรีตเม้นท์ และหลีกเลี่ยงการนำเส้นผมไปสัมผัสกับความร้อนสูงโดยตรงเช่นการรีดผม การรีดผมบ่อยๆจะเป็นการทำให้ไขมันที่เคลือบผมอยู่แห้ง ผมจะขาดความชุ่มชื่น และเกิดการช็อต แห้ง กรอบและแตกปลาย หรือที่เราเรียกกันว่าผมเสียน่ะคะ

วิธีแก้ไขให้นำทรีตเม้นท์ที่ได้คุณภาพหมักผมส่วนปลาย หลังสระผมทิ้งไว้ประมาณ15-20นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับปลายผมที่เสีย(ที่ยังพอแก้ไขได้) เล็มส่วนที่เสียออก แวะไปอบไอน้ำกับร้านที่เชื่อใจได้ เดือนนึงไม่ควรเกิน3-4ครั้ง

การอบไอน้ำคือการเปิดเกล็ดผมเพื่อให้ทรีตเม้นท์ได้ซึมเข้าไปช่วย"บำรุง"แกนผมส่วนที่ยังดีอยู่ ให้ผมมีความชุ่มชื้นขึ้น ผมจะแลดูเงางามเพราะไขมันเคลือบผมได้รับการบำรุง แต่การอบไอน้ำไม่ได้สามารถ"รักษา"ผมที่ช็อตหรือแห้ง เสีย หรือส่วนที่แตกปลาย

ดังนั้นการอบไอน้ำที่สามารถทำให้ผมช็อต แห้ง กรอบกลับมาดูมีชีวิตเหมือนเดิม ไม่มีโอกาสเป็นไปได้

เกิดเป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวยค่ะ เพราะเดี๋ยวผู้ชายจะสวยกว่าเราน

(จริงๆอันนี้เป็นบทความแรกของทางร้าน ดันไปเอาเรื่องการยืดผมกะรีบอนดิ้งมาใส่ก่อน จับสลับกันก็ไม่ได้...ชิ เพิ่งลองทำก็งี้แหละค่า ตามไปให้กำลังใจกันได้นะ facebook.com/chomphusalon จ้า)

ความเหมือนที่แตกต่างยืดผมกับรีบอนดิ้ง

สวัสดีคะเพื่อนๆ วันนี้มีลูกค้าของทางร้านมาถามว่า "พี่คะถ้าผมหนูยืดผมคิดราคาเท่าไหร่....แล้วถ้าเป็นรีบอนดิ้งล่ะคะ???" เลยต้องนำข้อสงสัยเกี่ยวกับคำว่า"ยืดผม"กับ"รีบอนดิ้ง"มาฝากคะ

มาเล่าประวัติให้ฟังก่อน การคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เส้นผมเหยียดตรงนั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่ป ี ค.ศ. 1910 (หรือ พ.ศ. 2453) จากชาวนิโกร ซึ่งมีเส้นผมหยิกและหนาแน่น เป็นขอดติดหนังศีรษะ เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ ด้วยการใช้สารเคมีที่มีคว

ามเป็นด่างสูง ไปถูกขนสัตว์ที่หยิก มีผลทำให้เส้นใยยืดออก

จากนั้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ชาวนิโกรและชาวอัฟริกัน อเมริกัน จะนิยมใช้ด่างในการยืดผมที่หยิกและฟู ให้เส้นผมเหยียดตรงและเรียบ หากเข้าไปดูในเว็บไซต์ของสินค้าเหล่านี้ จะพบสื่อโฆษณาเป็นผู้หญิงและผู้ชายผิวดำเป็นนางแบบและนายแบบ ปัจจุบันกลายเป็นแฟชั่นในสังคมไทยที่ต้องการเส้นผมเหยียดตรง แลดูสวยงาม

วิธีการยืดผมจึงใช้สารเคมีที่เป็นด่างเพื่อให้ไปทำลายโครงสร้างเส้นผม ทำให้แวกซ์ที่เคลือบอยู่รอบเส้นผมหลุดออกไป และไปสลายโครงสร้างภายใน เส้นผมจึงจะเหยียดตรง

ข้อควรจำ ปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างน้ำยาและเส้นผมจะยังคงอยู่อีกถึง 48 ชั่งโมง หลังจากการยืดผมเสร็จ จึงแนะนำว่าไม่ควรสระผมภายหลังจากที่ยืดผมอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

ส่วนคำว่า"ยืดผม"เป็นเทคนิคการยืดผมในสมัยก่อนที่เรายังใช้แผ่นยืด ส่วนการ"รีบอนดิ้ง"เป็นเทคนิคยืดผมในช่วงปัจจุบันที่เป็นที่นิมยมของช่างทำผมมาก รีบอนดิ้งจะเป็นการยืดโดยไม่ใช้แผ่นแต่จะเป็นการยืดโดยใช้เครื่องรีดหรือเครื่องหนีบแทน(นอกเรื่อง...กรุงเทพเรียกว่าเครื่องหนีบ โคราชเรียกว่าเครื่องรีด ตอนย้ายมาโคราชใหม่ๆ งงค่ะ ลูกค้ามารีด เราก็บอกว่า "อ่อหนีบนะคะ" ลูกค้าตอบว่า"ไม่ใช่คะรีดผมอ่ะคะ" 555 ^^ ตอนนี้เลยติดปากว่าเครื่องรีดไปด้วยแล้ว) แล้วจากบทความเก่าของทางร้านเรื่องผม(ลองหาอ่านดูในเพจนี้ได้นะคะ) การที่เรานำเครื่องรีดมารีดเส้นผมที่ไม่มีไขมันเคลือบผมอยู่จะส่งผลเสียต่อเส้นผมของเราได้มากแค่ไหนลองนึกดูเอาคะ บางร้านจะเชียร์ว่าถ้าทำรีบอนดิ้งผมจะไม่เสียเท่าการยืดผม...อยากฝากบอกว่าร้านนั้นกำลังทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพกันอยู่นะคะ

ดังนั้นในการจะลงมือยืดผมสักครั้ง ช่างทำผมต้องวิเคราะห์สภาพเส้นผมของลูกค้าก่อนว่าสามารถที่จะทำการยืดผมได้หรือไม่ ถ้าเส้นผมของลูกค้าสภาพโหดร้ายมาก แนะนำว่าให้บำรุงผมก่อนเถอะคะ

แต่เรื่องจริงสมัยนี้ ถ้าเดินเข้าร้านทำผมบอกว่ายืดผมเท่านั้นแหละ ช่างไม่ได้ดูสภาพผมลูกค้าจับยืดเลย ก็เงินเข้าร้านไม่เอาได้ยังไงล่ะ...พอผมลูกค้าแห้งเสีย ก็ชวนให้อบไอน้ำเด่วมันก็หาย พอไม่หายก็ให้มาอบใหม่ อบไปอยู่นั่นล่ะ พอผมส่วนที่งอกขั้นมาใหม่มันยาวขึ้นมาลูกค้าเริ่มรู้สึกว่าหายก็พอใจ แต่หารู้ไม่ว่าที่รู้สึกดีนั่นคือที่ผมของลูกค้ายาวขั้นมาปกติของธรรมชาติเอง

เพราะฉะนั้นแล้ว ยืดผม กับ รีบอนดิ้ง เหมือนกันคะต่างกันในขั้นตอนการทำนิดเดียว อย่าไปเสียรู้ให้กับร้านที่ไม่มีจรรยาบรรณเลยนะคะ และหมั่นดูแลสุขภาพผมด้วยตัวคุณเองเป็นประจำนะคะ

สุดท้ายฝากสโลแกนร้านเราไว้ด้วยคะ
"เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย เพราะเดี๋ยวผู้ชายจะสวยกว่าเรา"
สอบถามข้อมูลกับทางร้านได้นะคะ ช่างมาศ 083-7977592
ร้านอยู่ถ.ช้างเผือก หน้ารพ.มหาราช ร้านสีชมพูแป๊ดแล๊ด อยู่เยื้องร้านขายยาจันร์เพ็ญเภสัชนิดเดียวคะ

ยืดผมเคราติน Q: ยืดเคราตินคืออะไร A: การยืดพร้อมบำรุงเคราตินไปในตัว Q: ยืดเคราตินดีอย่างไร A: ผมจะนุ่มขึ้น เงาขึ้น ดูสวยมีน้ำหนั...